ในสายพานการผลิตสินค้าของโรงงานอุตสาหกรรมนั้น เครื่องจักรในสายการผลิตจะมีบางเครื่องที่มีความสำคัญต่อผลผลิตมากและไม่อยากให้เกิดการชำรุดหรือต้องหยุดเดินเครื่องโดยไม่คาดฝัน ฝ่ายซ่อมบำรุงจึงปฏิบัติต่อเครื่องจักรเหล่านี้โดยการเฝ้าตรวจวัดค่าที่สะท้อนถึงสภาพความผิดปกติต่างๆ เป็นประจำเพื่อนำผลการวัดมาประเมินช่วงเวลาซ่อมบำรุงที่เหมาะสม ประหยัดค่าใช้จ่าย และกระทบการผลิตให้น้อยที่สุด ซึ่งวิธีตรวจวัดที่นิยมใช้กันก็คือวัดค่าที่จำเป็นต่อการทำนายสภาพเครื่องจักรให้ครบถ้วน เช่นความสั่นสะเทือน ความร้อน กระแสไฟฟ้า ฯลฯ โดยใช้คนเดินตรวจวัดและบันทึกค่า หรือใช้เครื่องวัดที่สามารถวัดซ้ำให้โดยอัตโนมัติ ก็ตามแต่ความจำเป็นและงบประมาณของแต่ละหน่วยงานจะเห็นเหมาะสม
แต่เมื่ออุตสาหกรรมเข้าสู่ยุค 4.0 การใช้เทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลไร้สายกับระบบตรวจวัดอัตโนมัติเหล่านี้กลายเป็นเรื่องไม่แพงอีกต่อไป เราจึงเห็นระบบ Wireless Machines Condition Monitoring จากหลายค่ายเข้าสู่ตลาดซ่อมบำรุงมากขึ้นตามสมัยนิยมนี้ จึงขอแนะนำระบบที่ว่านี้จาก MURATA ประเทศญี่ปุ่นให้รู้จักกัน
พระเอกของระบบนี้ก็คือ Wireless Vibration sensor ขนาดเล็กจิ๋วเท่ากล่องไม้ขีดที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สายได้ในรัศมี 200 เมตร (ในที่โล่ง) และตัวเกตเวย์ที่ MURATA เลือกใช้คลื่นความถี่ 920MHz low power เป็นตัวเชื่อมต่อการสื่อสารข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ PC ซึ่งในวง wireless LAN 1 วงนี้สามารถเพิ่มอุปกรณ์เซนเซอร์หรือ repeater ต่างๆ ได้มากถึง 50 กว่าตัว
ดังนั้นการจัดตั้งระบบตรวจวัดความสั่นสะเทอนเครื่องจักรหลายๆ ตัวในสายพานการผลิตใดๆ จึงเป็นเรื่องที่ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว และยังสามารถขยายจำนวนเซนเซอร์ได้อีกมากในอนาคต นอกจากนี้ ค่าพารามิเตอร์อื่นๆ ก็สามารถวัดได้โดยใช้เซนเซอร์ที่ MURATA มีดังรูปต่อไปนี้เช่น อุณหภูมิ (วัดแบบสัมผัส) ความชื้นอากาศ, กระแสไฟฟ้า AC 0.1-500A และสัญญาณ analog ใดๆ ที่อยู่ในช่วง 4-20ma หรือ 0-5V ก็ได้เช่นกัน
ข้อมูลที่แต่ละเซนเซอร์ส่งมายังคอมพิวเตอร์ PC นั้นจะถูกบันทึกลงไฟล์ฐานข้อมูลโดยซอฟต์แวร์ฟรีไลเซนส์ของ MURATA เองและสามารถดูกราฟต่างๆ, ออกรายงาน, ตั้งค่า criteria ที่ต้องเฝ้าระวัง ฯลฯ ของแต่ละแชนแนลได้ทั้งหมด และยังมีความพร้อมที่จะส่งข้อมูลผ่าน UDP protocol เพื่อบันทึกลงฐานข้อมูลในระบบ client/server ได้อีกด้วย